ความใฝ่ฝันของน้องๆ
ม.ปลาย ทุกคน ก็คือการได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ชื่นชอบ ในคณะที่ใฝ่ฝัน
แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า มันมีทางเข้ามหาวิทยาลัยได้กี่ทาง
วันนี้พี่จะมาแนะนำน้องๆทุกคนนะ โดยข้อมูลทั้งหมดนี้
อ้างอิงจากระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีล่าสุด (2555)
โควต้าเรียกได้ว่า
มีทุกมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ ส่วนมหาวิทยาลัยไหนมีโควต้าแบบไหนต้องติดตามตาม
เว็บไซด์ของมหาวิทยาลัยนะครับน้องๆ โควต้าที่มีเป็นปกติของทุกมหาวิทยาลัยก็เช่น
โควต้าสำหรับน้องๆต่างจังหวัดที่มีผลการเรียนดี
โควต้าสำหรับน้องๆโครงการโอลิมปิกวิชาการ โควต้าสำหรับน้องๆที่มีความสามารถพิเศษด้านต่างๆ
เช่น ภาษา ศิลปะ กีฬา เป็นต้น ส่วนใหญ่โควต้าจะมีหลายรอบนะ
แต่หลักๆก็ก่อนสอบทุกอย่าง เรียกได้ว่าน้องมีมหาวิทยาลัยเรียน
ตั้งแต่ยังไม่ได้สอบเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับโควต้าบางที่
มีการสอบที่จัดโดยมหาวิทยาลัยเอง อันนี้น้องต้องติดตามข่าวสาร
ระเบียบการตามเว็บไซด์มหาวิทยาลัยนะครับ
รับตรงก็มีทุกมหาวิทยาลัยอีกเหมือนกัน
บางที่จะใช้ข้อสอบวัดระดับของมหาวิทยาลัยเอง บางที่จะใช้ข้อสอบวัดระดับจากส่วนกลาง
น้องจะต้องติดตามข่าวสารจากมหาวิทยาลัยว่า เกณฑ์คะแนนที่ใช้ ใช้คะแนนอะไร
อย่างละกี่เปอร์เซนต์ เช่น
คณะ / มหาวิทยาลัย
|
เกณฑ์
(จากปี 2555) |
คะแนนขั้นต่ำ
|
วิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
|
GAT 20%
PAT1 20% PAT3 60% |
ไม่มีคะแนนขั้นต่ำ
|
วิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
|
PAT1 40%
PAT3 40% สอบสัมภาษณ์ 20% |
จะต้องมีคะแนนมากกว่า
30% ของคะแนนเต็ม
(หรือมากกว่า 90 คะแนน) |
แค่นี้ก็เป็นตัวอย่างให้น้องเห็นได้แล้วว่า
เกณฑ์แต่ละมหาวิทยาลัยจะไม่เหมือนกันเลย
ในส่วนรับตรงน้องจะสมัครกี่มหาวิทยาลัยก็ได้ แต่ละมหาวิทยาลัยจะไม่ตัดสิทธิ์น้องๆที่ติดรับตรงของมหาวิทยาลัยอื่นนะครับ เป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับน้องๆที่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐ สำหรับ Admission นี้ แต่ละมหาวิทยาลัย ในคณะเดียวกัน จะใช้เกณฑ์เดียวกันในการตัดสิน โดยน้องๆจะต้องติดตามข่าวสารจาก สอท. http://www.cuas.or.th ว่าแต่ละคณะ แต่ละมหาวิทยาลัย จะรับน้องๆเข้าเรียนทั้งหมดกี่คน และแต่ละคณะจะใช้เกณฑ์อะไรบ้าง น้องๆสามารถดูสัดส่วนคะแนนได้จาก http://www.cuas.or.th/document/brochouradm56.pdf
แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกอันดับคณะที่อยากเข้าก็ต้องใช้ข้อมูลทางสถิติ (คะแนนสูงต่ำ) น้องสามารถดูตัวอย่างได้จากhttp://admission.cuas.or.th/adm55mxmnbyaupt/index.html จาก Admission 2555 แต่สำหรับปีอื่นๆ สามารถดูได้จากหนังสือระเบียบการ Admission ซึ่งคะแนนในแต่ละปี จะมีการขึ้น-ลง ที่ต่างกัน เช่น คะแนนของน้อง อาจจะ Admission ปี 2552 ติด แต่ Admission ปี 2553 ไม่ติด ก็ได้ ดังนั้น ข้อมูลทางสถิติที่ทาง สอท. ประกาศออกมา เป็นแค่ข้อมูลช่วยในการตัดสินใจเท่านั้น อย่าเชื่อใจ 100% นะครับ
ในส่วนรับตรงน้องจะสมัครกี่มหาวิทยาลัยก็ได้ แต่ละมหาวิทยาลัยจะไม่ตัดสิทธิ์น้องๆที่ติดรับตรงของมหาวิทยาลัยอื่นนะครับ เป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับน้องๆที่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐ สำหรับ Admission นี้ แต่ละมหาวิทยาลัย ในคณะเดียวกัน จะใช้เกณฑ์เดียวกันในการตัดสิน โดยน้องๆจะต้องติดตามข่าวสารจาก สอท. http://www.cuas.or.th ว่าแต่ละคณะ แต่ละมหาวิทยาลัย จะรับน้องๆเข้าเรียนทั้งหมดกี่คน และแต่ละคณะจะใช้เกณฑ์อะไรบ้าง น้องๆสามารถดูสัดส่วนคะแนนได้จาก http://www.cuas.or.th/document/brochouradm56.pdf
แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกอันดับคณะที่อยากเข้าก็ต้องใช้ข้อมูลทางสถิติ (คะแนนสูงต่ำ) น้องสามารถดูตัวอย่างได้จากhttp://admission.cuas.or.th/adm55mxmnbyaupt/index.html จาก Admission 2555 แต่สำหรับปีอื่นๆ สามารถดูได้จากหนังสือระเบียบการ Admission ซึ่งคะแนนในแต่ละปี จะมีการขึ้น-ลง ที่ต่างกัน เช่น คะแนนของน้อง อาจจะ Admission ปี 2552 ติด แต่ Admission ปี 2553 ไม่ติด ก็ได้ ดังนั้น ข้อมูลทางสถิติที่ทาง สอท. ประกาศออกมา เป็นแค่ข้อมูลช่วยในการตัดสินใจเท่านั้น อย่าเชื่อใจ 100% นะครับ
น้องที่ไม่เข้ามหาวิทยาลัยของรัฐ
ก็มีมหาวิทยาลัยเอกชนอีกหลายที่ที่รองรับน้องๆอยู่ แต่แน่นอน
ค่าเทอมก็จะสูงกว่ามหาวิทยาลัยรัฐแน่นอน วิธีการรับเข้า จะขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย
ว่าจะใช้เกณฑ์ใดในการรับน้องๆเข้าศึกษา
อันนี้น้องต้องติดตามข่าวสารจากเว็บไซด์ของมหาวิทยาลัยนะครับ
การเรียนอินเตอร์เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
และแนวโน้มของนักเรียนอินเตอร์จะมีโอกาสการเข้าทำงานในบริษัทต่างๆที่สูงขึ้น
เพราะในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ก็จะเริ่มขึ้นแล้ว
ดังนั้น คนเก่งอย่างเดียวนั้นไม่พอ น้องจะต้องมีความรู้ทางภาษาด้วย
ซึ่งการเรียนอินเตอร์เป็นตัวการันตีระดับทางภาษาของน้องๆได้ แต่พี่ไม่ได้หมายความว่าน้องจะต้องเรียนอินเตอร์นะครับ
ถ้าน้องเรียนภาคไทย จะต้องไม่ทิ้งวิชาภาษาอังกฤษนะ
สำหรับเกณฑ์การสอบเข้าภาคอินเตอร์ ก็จะใช้สัดส่วนของคะแนนต่างกันในแต่ละมหาวิทยาลัย โดยการสอบนี้จะเป็นการสอบวัดระดับของนานาชาติ หรือข้อสอบภาษาอังกฤษ เช่น TOFEL, IELTS, SAT, CU TEP, CU AAT, CU ATS เป็นต้น
สำหรับเกณฑ์การสอบเข้าภาคอินเตอร์ ก็จะใช้สัดส่วนของคะแนนต่างกันในแต่ละมหาวิทยาลัย โดยการสอบนี้จะเป็นการสอบวัดระดับของนานาชาติ หรือข้อสอบภาษาอังกฤษ เช่น TOFEL, IELTS, SAT, CU TEP, CU AAT, CU ATS เป็นต้น
1. GAT/PAT – น้องสามารถติดตามข่าวสารได้จากhttp://www.niets.or.th/ โดยตามปกติแล้ว จะมีการจัดสอบในช่วงเดือน ตุลาคม และมีนาคม ของทุกปี สำหรับน้องๆระดับชั้น ม.6 ขึ้นไป โดยแบ่งเป็น
·
GAT ความถนัดทั่วไป (ภาษาไทย และอังกฤษ)
·
PAT1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
·
PAT2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
·
PAT3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
·
PAT4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
·
PAT5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
·
PAT6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
·
PAT7 ความถนัดทางภาษา (ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น จีน อาหรับ บาลี)
ทั้งนี้
น้องจะเลือกสมัครวิชาใด น้องจะต้องรู้ว่าตัวน้องอยากเข้าคณะใด
และใช้เกณฑ์เป็นคะแนนจากวิชาไหน น้องจะได้ไม่ต้องสอบแบบหว่านแหไปหมด ที่สำคัญ
การสมัครสอบ GAT PAT น้องจะต้องเป็นคนสมัครด้วยตัวเอง และเลือกสนามสอบใดก็ได้
2. สอบวิชาสามัญ 7 วิชา – น้องสามารถติดตามข่าวสารได้จาก http://www.niets.or.th/ โดยตามปกติแล้ว จะมีการจัดสอบในช่วงเดือนมกราคม การสอบนี้เป็นระบบใหม่ที่เริ่มใช้ใน Admission 2555 โดยวิชาที่สอบมีดังนี้คือ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคมศึกษา โดยการสอบนี้น้องจะต้องสมัครด้วยตัวเองเช่นกัน
3. สอบ O-NET – น้องสามารถติดตามข่าวสารได้จาก http://www.niets.or.th/ หรือที่โรงเรียนน้องๆเอง เพราะว่าน้องต้องสอบทุกคน และโรงเรียนเป็นผู้สมัครให้ น้องไม่ต้องสมัครเอง การสอบนี้จะสอบเฉพาะวิชาพื้นฐานทั้งหมด 8 กลุ่มสาระ คือ ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
2. สอบวิชาสามัญ 7 วิชา – น้องสามารถติดตามข่าวสารได้จาก http://www.niets.or.th/ โดยตามปกติแล้ว จะมีการจัดสอบในช่วงเดือนมกราคม การสอบนี้เป็นระบบใหม่ที่เริ่มใช้ใน Admission 2555 โดยวิชาที่สอบมีดังนี้คือ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคมศึกษา โดยการสอบนี้น้องจะต้องสมัครด้วยตัวเองเช่นกัน
3. สอบ O-NET – น้องสามารถติดตามข่าวสารได้จาก http://www.niets.or.th/ หรือที่โรงเรียนน้องๆเอง เพราะว่าน้องต้องสอบทุกคน และโรงเรียนเป็นผู้สมัครให้ น้องไม่ต้องสมัครเอง การสอบนี้จะสอบเฉพาะวิชาพื้นฐานทั้งหมด 8 กลุ่มสาระ คือ ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
1.
Clearing House คืออะไร ต้องสอบไหม?
·
Clearing House เรียกว่าเป็นระบบที่รับตรงร่วมกันทุกมหาวิทยาลัย โดยแต่ก่อนน้องๆเมื่อ
สอบติดโดยวิธีรับตรงแล้ว น้องจะต้องไปลงทะเบียนเป็น นิสิต นักศึกษา
ของมหาวิทยาลัยนั้นๆ แต่เมื่อระบบนี้เกิดขึ้น น้องจะยังไม่ต้องลงทะเบียนในมหาวิทยาลัย
แต่ สอท. จะรวบรวมรายชื่อคนที่ผ่านการคัดเลือกทุกมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วม เอาไว้
และให้น้องเข้าไปกดยืนยันสิทธิ์ ว่าน้องจะเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยใด
ทำให้มหาวิทยาลัยได้จำนวนนิสิต นักศึกษาที่แน่นอน
และทำให้จำนวนคนที่ต้องรับเข้าในระบบ Admission ถูกต้องมากยิ่งขึ้น
และน้องๆจะไม่มีชื่ออยู่ในมหาวิทยาลัยมากกว่า 1 ที่
ซึ่งแต่เดิม ถ้าน้องมีชื่ออยู่มากกว่า 1 ที่จะต้องทำเรื่องขอลาออกจากมหาวิทยาลัยที่ไม่ต้องการเรียนด้วย
2.
Clearing House นี่จะต้องเข้าไปยืนยันสิทธิ์ทุกคนหรือเปล่า?
·
น้องต้องเข้าไปยืนยันสิทธิ์ทุกคนที่ติดในระบบ
รับตรง และโควต้า ถ้าไม่เข้าไปยืนยันสิทธิ์ภายในเวลาที่กำหนด
ถือว่าสละสิทธิ์การเข้าศึกษาทั้งหมดนะครับ
3.
การเข้ามหาวิทยาลัยโดยวิธีรับตรง ใช้คะแนน GAT PAT รอบไหน?
·
ใช้คะแนนรอบ
ตุลาคม ปีล่าสุด เท่านั้นครับ แต่สำหรับ Admission
น้องสามารถเลือกคะแนนครั้งไหนก็ได้